Computer Assisted Language Learning and English Language Teaching in Thailand

บทนำ : การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนภาษาในประเทศไทย

        ผลการสอบทางด้านภาษาของพวกเขาหลังจากการทดสอบระดับชาติ  หรือโดยการสอบที่ได้มาตรฐานต่างๆ  อันได้แก่  TOEFL  และ  TOEIC  ยังคงอยู่ไกลจากระดับความพึงพอใจ  ผลงานจากเด็กที่เรียนภาษาที่ไม่น่าพึงพอใจนี้แสดงให้เห็นว่า  ทั้งๆที่มีความพยายาม  อุตสาหะ  จากทุกๆหน่วยงานได้มีความวิตกกังวลว่า  การสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทยนั้นประสบกับปัญหาความก้าวหน้าอย่างเชื่องช้า  ดังนั้น  ศึกษานิเทศก์  ผู้บริหาร  และนักพัฒนา  ต้องให้ความสนใจโดยทันที  ภายใต้ความต้องการที่จะปรับปรุง  แก้ไข  ELT  ในประเทศไทย  พวกเขาจำเป็นที่จะต้องกระตือรือร้นในการวินิจฉัยถึงกลยุทธ์ในการสอนภาษาอังกฤษในหมู่นักเรียนชาวไทย  ภายใต้ความต้องการของผลวิชาภาษาอังกฤษที่มีอยู่ในระดับชาติ  เทคโนโลยีเหล่านี้ได้กลายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิผลในการติดต่อสื่อสารกับผู้คนรอบโลก  เทคโนโลยีนั้นเร็วกว่า  ง่ายกว่า  และสะดวกกว่าในการใช้สื่อรุ่นเก่าอื่นๆ   โดยเฉพาะ  บทบาทของคอมพิวเตอร์ในการเรียนการสอนภาษานั้นเพิ่มขึ้นมาในระดับโลกแล้ว  สาเหตุเพราะผู้เรียนภาษาส่วนใหญ่จะใช้อินเทอร์เน็ต    ในการสื่อสารกับนักเรียนผู้อื่นในเวลาเดียวกัน  หรือผู้พูดในภาษาเป้าหมายที่อยู่รอบโลก  
           บทความนี้แสดงให้เห็นความคิดของมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จัดให้เห็นภาพโดยรวมของ CALL ว่าเป็นอย่างไรในการสอนภาษา พร้อมทั้งเน้นข้อดีและข้อเสียของการประยุกต์ใช้ CALL ให้เรียนรู้ภาษาประสบผลสำเร็จ บทบาทในการสอนและเรียนรู้ภาษา

การพัฒนาของCALL

           - Behaviorist CAll    เป็นลักษณะของคอมพิวเตอร์ช่วยสอนรุ่นแรกที่มีการใช้ในช่วง ปี 1960 - 1970  ซึ่งจะเน้นกระบวนการฝึกฝนและทบทวนซ้ำๆ  คำศัพท์  ไวยากรณ์  และการแปล ภายใต้การสร้างแรงกระตุ้นแก่นักเรียนโดยยึดทฤษฎีพฤติกรรมการเรียนรู้ 
           - Communicative CALL  
เป็นลักษณะของคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในช่วงปี 1970 - 1980 ที่เน้นกระบวนการพัฒนาศักยภาพการสนทนาในสถานการณ์จริง  โดยคอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่เป็นผู้สอนพร้อมกับการสร้างแรงกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความสนใจผ่านกิจกรรมการสนทนา ที่จะทำให้นักเรียนเกิดความเข้าใจในภาษาอังกฤษผ่านกระบวนการสร้างคำ การสะกดคำ ไวยากรณ์ ในโปรแกรมที่ติดตั้งไว้ในคอมพิวเตอร์
           - Integrate Call  
เป็นลักษณะของคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในปี 1980 - 1990  ที่นำเทคโนโลยีมาบูรณการในการเรียนการสอนภาษาที่เน้นทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน   โดยเปิดให้นักเรียนได้ศึกษาตามความสนใจผ่านอินเตอร์เน็ตเข้าถึงแหล่งความรู้ที่ทันสมัย และ รวดเร็ว

ข้อดีและข้อเสียของการใช้CALL

ข้อดีของCALL
     - ในการเรียนภาษาได้จัดเตรียมข้อมูลที่น่าเชื่อถือให้กับนักเรียน
     - ครูสามารถใช้ CALL เพื่อจัดการเข้าถึงที่ง่ายและรวดเร็วต่อแหล่งข้อมูลในการเรียนภาษาที่หลากหลาย  
     - สร้างความสนใจ แรงจูงใจ และความมั่นใจของนักเรียน
     - เป็นสื่อกลางให้นักเรียนได้แสดงความสามารถที่สร้างสรรค์
     - ผู้เรียนสามารถเรียนอย่างกว้างขวางด้วยข้อมูลต่างๆ และส่งเสริมตามที่พวกเขาต้องการ เพื่อให้งานแต่ละคนเกิดความสมบูรณ์ และตอบสนองความต่อความหลากหลายของผู้เรียน 
ข้อเสียของCALL
     - ค่อนข้างมีราคาสูงของเครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพในห้องเรียนมีน้อย
     - ใช้เวลาในการลงโปรแกรมเป็นเวลานาน

การศึกษาCALLและELTในประเทศไทย

       โครงการบูรณาการ CALL การสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทยไม่สามารถพูดได้ว่าโปรแกรมที่คาดหวังในบริบทของการศึกษาระดับชาติ การศึกษาสามัญ โปรแกรม CALL ที่ใช้ในบริบทรวมถึงโปรแกรมการสอน การฝึกฝนและปฏิบัติ สาธิต การจำลอง เกมส์ การทดสอบ และโปรแกรมการสอนที่มีความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวมแก่นักเรียน  จะนำเสนอข้อมูลในหน่วยเล็กๆ ที่มีประโยค กราฟิก และเสียง นักเรียนสามารถเรียนรู้เนื้อหาผ่านทางคำถามเพื่อให้นักเรียนตอบ พวกเขาได้รับการตอบรับทันที ถ้าคำตอบของพวกเขาไม่ถูกต้อง พวกเขาจะได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง บทเรียนชนิดนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นที่นิยมมากสำหรับนักเรียนและครู เพราะว่ามีแบบฝึกหัด 
      การฝึกทดสอบเป็นการทบทวนเนื้อหาความรู้เดิมของนักเรียนและยังช่วยให้นักเรียนสามารคงไว้ซึ่งทักษะทางภาษาไม่ว่าจะเป็นการอ่าน การฟัง  เป็นต้น    การกระตุ้นพร้อมให้นักเรียนเกิดการตอบสนองอย่างกระตือรือร้น และการตอบโต้ของนักเรียนถือเป็นขั้นตอนสำคัญของโปรแกรมนี้    
     การสร้างสถานการณ์สมมุติหรือการแก้ปัญหาได้นำมาใช้เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการคิดเชิงวิจารณ์ ทักษะการอภิปราย และทักษะการเขียน  โดยการใช้สถานการณ์ในชีวิตจริงเพื่อที่นักเรียนสามารถนำไปใช้ได้จริง  นักเรียนจะรู้สึกท้าทายในการแก้ปัญหา ที่ประกอบไปด้วยการสันทนาการกับการเรียนรู้   เกมส์ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างบรรยากาศในการเรียนการสอน ปรกติแล้ว เกมส์ที่นำมาใช้ในการเรียนการสอนจะต้องมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ความหมายของการเลียนแบบและเกมส์ก็คล้ายๆกัน การเลียนแบบก็คือการเลียนแบบจากสถานการณ์จริง  แต่เกมส์อาจจะไม่เป็นการเลียนแบบจากสถานการณ์จริง นักเรียนสามารถที่จะเรียนรู้กติกา  กระบวนการ รวมทั้งทักษะอื่นๆ

การเรียนโดยอาศัยโปรแกรมCALL      

       Maneekul (1996) ได้ยกตัวอย่างของความพยายามในการค้นหาผลของการมีสิ่งที่เพิ่มเติมในการสอนแบบปกติ โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน  เพื่อทำให้การสอนได้ผลดีที่สุด รวมถึงทัศนคติในส่วนของคะแนนผลการสอบของนักเรียนไทยก็ดีไปด้วย  การศึกษาแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาในการสอนแบบปกติ
       Tongtua (2008) พิจารณาเรื่องนี้ด้วยเช่นกับว่า การพัฒนาทักษะความสามารถในการอ่าน ในระเบียบการปรับปรุงการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนเพื่อความเข้าใจ,ทดสอบความสำเร็จและสอบถามทัศนคติและทดสอบนักเรียนมัธยมปลาย 20 คน ผลลัพธ์ที่ได้ แสดงให้เห็นว่า นักเรียนที่เรียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน มีการบรรลุถึงผลสำเร็จเป็นอย่างมาก  และมากกว่าผู้ที่เรียนโดยใช้หนังสือเรียนเสริม และยังทำให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีกับการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในการเรียนภาษาอีกด้วย 
        Tongpoon (2001) ศึกษาการพัฒนาโปรแกรมสื่อการสอน แกรมม่า เรื่อง phrasal verbsใช้กับนักศึกษาปี 1 เอกภาษาอังกฤษพบว่า นักเรียนมีความสามารถดีขึ้นระหว่างการใช้ CALL ในการเรียนภาษาอังกฤษ
         อินทัต (2003)  ประเมินผล CALL การใช้การสอบ pre – test และ post – test มาเปรียบเทียบกับผลคะแนน post – test สูงกว่า pre – test สรุปว่า CALL นักศึกษามีความสามารถมากขึ้น CALL สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในหลักสูตรการศึกษาของไทยได้
          Writing  skill  อินทัต (2009)ได้พัฒนาการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองจากสื่อ CALL เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน กับนักศึกษา .ตรี ของไทย 100 คน ผลที่ได้คือ นักศึกษามีความสามารถเพิ่มขึ้น 
          Gubtapool (2002)  ได้สำรวจกลยุทธ์ของนักศึกษาไทยกับการใช้โปรแกรมการสร้างคำเพื่อช่วยพัฒนาการเขียนได้สำรวจทางการสัมภาษณ์ เอกสารการวิเคราะห์ ผล: โปรแกรมช่วยนักศึกษาพัฒนาการเขียนในหลายเรื่องเช่น capitalization, singular plural forms, subject verb agreement และ punctuation โปรแกรมช่วยตรวจสอบ spelling และ grammar



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ELT Demo Lesson:Vocabulary and Reading-Pre-Intermediate

Learn English Listening Skills